*********************************************
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
รูปร่างหน้าตา หน้ารูปไข่ ชื่อเสือป๊อก เสือปึ้กแย่งทุกอย่าง แม้ตั้งแต่นมแม่ คนล่ะข้างมันยังแย่งไปเลย ตอนนี้โตแล้วแย่งไม่ได้แล้ว เดือนเมษายน เป็นเดือนที่ร้อนที่สุด แม่เราคงทรมานเนาะสมัยนั้น ไม่มีพัดลม ไม่มีแอร์ มีแต่วี ครอบครัวผม มีสมาชิกอยู่ 8 คน ทุกคนมีลูกมีเต้าหมดแล้ว ส่วนผมมี หลานผู้หญิง 5 คน ชาย 2 คน เหลือแต่ผมยังไม่มีคนมาเอาใจเลย .บ้านผมนะมีแฝด 5 คู่ เยอะมากครับ เอ่ผมลืมอะไรน่ะ*** หัวข้อยังไม่เข้าเลยน่ะครับแค่โม้เฉยๆ
อ้าว**เรามาเข้าหัวข้อกันดีกว่า ว่าอะไรคืออะไรความเชื่อ อะไรคือความศรัธทา มาคุยกันเลยดีกว่ามั้งงงมานานแล้ว ความเชื่อ คือ การยอมรับว่าสิ่งใดสิ่งหนึ่งเป็นความจริงหรือเป็นสิ่งที่เราไว้ใจ ความจริงหรือความไว้วางใจที่เป็นรูปของความเชื่อนั้น ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นความจริงที่ตรงตามหลักเหตุผลหรือหลักวิทยาศาสตร์ใดๆ คนที่เชื่อในฤกษ์ยามก็จะถือว่า วันเวลาการโคจรของดวงดาวจะก่อให้เกิดผลต่อตัวมนุษย์ คนที่เชื่อเครื่องรางของขลังก็จะมีความยึดมั่นว่า เครื่องรางของขลังให้คุณให้โทษแก่ตนได้จริง ตัวอย่างของความเชื่อ ได้แก่ ไสยศาสตร์ โหราศาสตร์ โชคลาง ของขลัง ผีสาง นางไม้ ความเชื่ออำนาจลึกลับ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ อิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ เหล่านี้เป็นต้น
***********************************
ศรัทธา ตามความหมายที่ใช้ในพจนานุกรม หมายถึง “ความเชื่อถือ ความเลื่อมใส” คำ ศรัทธา นี้ คณะกรรมการจัดทำพจนานุกรมศัพท์ศาสนาสากล แห่งราชบัณฑิตยสถาน ได้บัญญัติมาจากคำ faith และอธิบายว่า หมายถึง “ความเชื่อ ความเลื่อมใส โดยทั่ว ๆ ไปแบ่งได้เป็น ๓ ประเภท คือ

๑. ศรัทธาโดยไม่ต้องใช้ปัญญาแสวงหาความจริง
๒. ศรัทธาโดยใช้ปัญญาแสวงหาความจริงไปพร้อม ๆ กัน
๓. ศรัทธาต่อเมื่อมีประสบการณ์ด้วยตนเองจริง ๆ แล้ว”

๑. ศรัทธาโดยไม่ต้องใช้ปัญญาแสวงหาความจริง
๒. ศรัทธาโดยใช้ปัญญาแสวงหาความจริงไปพร้อม ๆ กัน
๓. ศรัทธาต่อเมื่อมีประสบการณ์ด้วยตนเองจริง ๆ แล้ว”
ในพระพุทธศาสนาแบ่งศรัทธาออกเป็น ๔ อย่าง คือ
๑. กัมมสัทธา เชื่อกฎแห่งกรรม เชื่อว่ากรรมมีอยู่จริง คือ เชื่อว่ากรรมดีกรรมชั่วเป็นเหตุปัจจัยที่จะก่อให้เกิดผลดีผลร้ายสืบเนื่องต่อไป
๒. วิปากสัทธา เชื่อผลของกรรม เชื่อว่าผลของกรรมมีจริง คือ เชื่อว่ากรรมที่ทำแล้วจะต้องมีผลติดตามมา
๓. กัมมัสสกตาสัทธา เชื่อความที่สัตว์มีกรรมเป็นของของตน คือ เชื่อว่าแต่ละคนจะต้องรับผิดชอบเสวยผลของกรรมนั้น
๔. ตถาคตโพธิสัทธา เชื่อความตรัสรู้ของพระพุทธเจ้ามั่นใจในองค์พระตถาคตว่าทรงเป็นพระสัมมาสัมพุทธะ คือทรงเป็นผู้ตรัสรู้สัจธรรมด้วยพระองค์เองโดยชอบ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น